ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ในปัจจุบันอาการท้องผูก ถ่ายเป็นก้อนแข็ง ถ่ายลำบาก นับได้ว่าเป็นกันค่อนข้างมาก โดยอาการนี้ค่อนข้างสร้างปัญหาในการดำรงชีวิตพอสมควร เมื่อขับถ่ายไม่ออกก็เกิดอาการอึดอัดท้อง แน่นท้อง พอขับถ่ายก็เกิดปัญหาถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วยในบางราย
สมมุติฐานตามหลักการแพทย์แผนไทย มองว่าเกิดปัญหาในเรื่องของธาตุลมทำงานผิดปกติ โดยธาตุลมในร่างกาย จะแบ่งหน้าที่กันทำงานอยู่ 6 กลุ่มด้วยกัน ซึ่งลมที่มีปัญหาคือ ลมโกฎฐาสยาวาตา หรือที่รู้จักกันในฐานะลมที่พัดเคลื่อนที่จากเบื้องบ้นลงสู่เบื้องล่างนั่นเอง เมื่อลมตัวนี้เกิดปัญหา ทำงานผิดปกติ ระบบขับถ่ายก็จะเกิดปัญหาตามมาทั้งปัสสาวะ และอุจจาระ
เพราะเหตุใด ลมตัวนี้จึงเกิดปัญหาขึ้นมา ในการเคลื่อนที่ของธาตุลมในร่างกาย จะสัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของธาตุไฟ ดังนั้นกล่าวได้ว่า ธาตุไฟในร่างกายก็เกิดการทำงานผิดปกติเช่นกัน
ด้วยสภาพอากาศในประเทศไทยค่อนข้างร้อน คนส่วนใหญ่มักดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ น้ำแข็ง ไอศครีม อาหารที่มีฤทธิ์เย็นต่าง ๆ เมื่อทานเข้าไปบ่อย ๆ ก็ส่งผลให้ธาตุไฟผิดปกติ ตามมาด้วยธาตุลมผิดปกตินั่นเอง
รวมถึงกลุ่มคนที่ต้องทำงานเร่งรีบ ทำงานที่ไม่สะดวกเข้าห้องน้ำ ทำให้ต้องกลั้นการขับถ่ายบ่อย ๆ และการดื่มน้ำที่น้อย ทานอาหารที่มีกากใยน้อยด้วยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าอาการท้องผูกนี้ ไม่ได้มาจากเชื้อโรค หรือการติดต่อจากผู้อื่นใด ๆ แต่เกิดจากพฤติกรรมของตัวเราเองล้วน ๆ ซึ่งส่วนมากมาจากพฤติกรรมในการทานอาหารนั่นเอง
ดังนั้นแนวทางในการรักษาของหมอสมุนไพร จะมี 2 ส่วนด้วยกันคือ
1. การใช้ยาสมุนไพรที่ช่วยในการระบาย ขับถ่าย ซึ่งจะมีอยู่หลาย ๆ ตำรับยาด้วยกัน อาทิเช่น
1.1 ยาธรณีสัณฑฆาต
ยาสมุนไพรแผนโบราณนี้ เป็นหนึ่งในยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ ซึ่งมีฤทธิ์ในการขับถ่ายอุจจาระ ท้องผูก เถาดานในท้อง ซึ่งยาตำรับนี้ค่อนข้างมีฤทธิ์ร้อน ไม่เหมาะกับเด็ก ผู้ที่มีไข้ หรือกำลังตั้งครรภ์
1.2 ยาถ่ายดีเกลือ
ยาตำรับนี้จะเป็นที่รู้จักทั่วไปในนามยาน้ำระดมพล โดยยาตำรับนี้จะมีฤทธิ์ที่เย็นกว่ายาธรณีสัณฑฆาต มีฤทธิ์ในการถ่าย ระบาย ถ่ายน้ำเหลือเสีย
1.3 สมุนไพรตรีผลา
สมุนไพรตรีผลา เป็นหนี่งในยาพิกัดตรี โดยผสมเอาสมุนไพร 3 ชนิดเข้ามารวมกัน โดยสมุนไพรตำรับนี้นอกจากจะมีฤทธิ์ในการช่วยระบายได้ดีแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลธาตุในร่างกายได้อีกด้วย
3 ตำรับนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งสามารถหาซื้อมาใช้ได้ง่าย และค่อนข้างปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงอันตรายร้ายแรงกับผู้ใช้
ซึ่งในตำรายาสมุนไพรแล้ว ยังมีอีกหลายตำรับมากที่ช่วยในการระบาย ขับถ่าย ขับของเสียในร่างกาย แต่การนำมาใช้ควรปรึกษากับแพทย์แผนไทยทุกครั้ง เพื่อจะได้ใช้อย่างปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย
2. การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ด้วยจากสาเหตุของอาการท้องผูก มาจากพฤติกรรมของเรา ดังนั้นการแก้ไขปัญหาอย่างถาวรก็คือการปรับพฤติกรรมนั่นเอง ดังนี้
2.1 การหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นจัด น้ำแข็ง ไอศครีม เป็นประจำ เพื่อไม่ให้ธาตุในร่างกายทำงานผิดปกติ
2.2 การดื่มน้ำเปล่า ที่ไม่เย็นให้ได้ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิภายในร่างกายไม่ให้ร้อน หรือเย็นจนเกินไป เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย และกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้เป็นปกติ
2.3 การทานอาหารที่มีกากใย เพื่อช่วยให้อุจจาระสามารถระบายออกมาได้ปกติ
2.4 การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้ระบบกล้ามเนื้อ ระบบภายในร่างกาย ทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเสริมสุขภาพให้แข็งแร็งดีขึ้นด้วย
เพียงเท่านี้ เราก็ห่างไกลจากอาการท้องผูกได้อย่างถาวร
บทความโดย
พท.อมรชัย แก้วเรือน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น